ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาท ให้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยก เพื่อให้บริการผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรงได้เข้ารับการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างเต็มศักยภาพ และเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร
นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่มีการระบาดขยายเป็นวงกว้าง ทำให้พบจำนวนผู้ติดเชื้อ รวมทั้งผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นับเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลหลักที่รับส่งต่อตลอดจนดูแลและให้การรักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มาโดยตลอด ด้วยการจัดตั้งหอผู้ป่วย Cohort หอผู้ป่วยเฝ้าระวัง (PUI) หอผู้ป่วยความดันลบ รวมถึงโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เป็นต้น และเพื่อเป็นการสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้อย่างเต็มศักยภาพ และเพียงพอต่อการรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น
ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้ตระหนักถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณสู้ภัย COVID-19 จำนวน 2,000,000 บาท มอบให้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติสำหรับจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นผู้รับมอบ และมีคณะกรรมการธนาคาร ประกอบด้วย ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง นายชาญวิทย์ นาคบุรี และนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงร่วมในพิธีส่งมอบ
โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัย COVID-19 ที่ธนาคารดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ส่งมอบหน้ากากอนามัย พร้อมสายคล้องหน้ากากอนามัย จำนวน 10,420 ชุด ให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชน อีกทั้งในด้านงบประมาณ สนับสนุนน้ำดื่ม และอาหารกลางวัน ให้หน่วยงานสำคัญต่าง ๆ สถานพยาบาล สถานศึกษา และวัด เป็นต้น
ทั้งนี้ ธอส. มีภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และปานกลาง ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาตลอดระยะเวลากว่า 67 ปี ธนาคารสร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม และการกีฬา โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน และการปลูกจิตอาสาช่วยเหลือสังคมของผู้ปฏิบัติงานภายในองค์กร รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชน และสร้างสังคมไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน