ในสภาวะที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดอย่างหนัก หลายองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อย่างเร่งด่วน สิ่งหนึ่งที่สำคัญและมีความปลอดภัยสูงได้ถูกนำมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจนั่นคือ เทคโนโลยี ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่ต้องมีเครื่องมือด้านเทคโนโลยี (Technology Toolkit) ที่สร้างสรรค์เเละเเก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีตที่ใช้เพียงการสื่อสารผ่านอีเมล์หรือข้อความ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ให้คำเเนะนำแก่ผู้ประกอบการมากกว่า 3.4 ล้านรายทั่วโลก ในการใช้เทคโนโลยีจัดการธุรกิจเเละการบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่นขอเเนะนำ 7 เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยผลักดันธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติ
2.การสื่อสารและการประสานความร่วมมือ (Communication and Collaboration) แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) หรือวีดิโอแชตเกิดขึ้นมากมาย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 62 ล้านครั้ง โดยผู้ประกอบการใช้เพื่อติดต่อพูดคุยกับพันธมิตร คู่ค้า และลูกค้า นอกจากจะใช้ในการประชุมแล้ว ยังใช้ในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ในกลุ่มธุรกิจ หรือกลุ่มเครือข่ายทางธุรกิจได้อีกด้วย โดยผู้ประกอบการสามารถแยกเป็นห้องประชุมย่อยออนไลน์สำหรับการประชุมกลุ่มย่อยได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดทำ Webinar ขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับพันธมิตรหรือคู่ค้า พร้อมทำการบันทึกกิจกรรมแล้วนำไปสร้างเป็นคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรืออีเมล์ เพื่อช่วยผลักดันสร้างยอดขายเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างเเอปพลิเคชั่นการประชุมออนไลน์เเบบไม่มี ค่าใช้จ่ายอย่าง JOIN.ME สามารถเข้าร่วมประชุมได้สูงสุด 10 คน
4.การใช้โปรแกรมสนทนา Slack ผู้ประกอบการในหลายองค์กรเลือกใช้โปรแกรมสนทนา Slack ในการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น เพราะใช้งานง่าย เป็นเสมือนสื่อกลางในการทำงาน โดยใช้แทนอีเมล แชต และอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการอัพเดตข้อมูล ข่าวสาร คำแนะนำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเนื้อหาต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการเข้าถึงระหว่างลูกค้าและแบรนด์มากยิ่งขึ้น
5.การจัดเก็บข้อมูล (Storage) การประมวลผลระบบคลาวด์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เสมือนเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลสำคัญได้อย่างปลอดภัย ปกป้องข้อมูลสำรอง เเละสามารถเเชร์ข้อมูลได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Google Drive, Dropbox หรือ Microsoft Sharepoint การย้ายข้อมูลในการทำงานไปยังระบบคลาวด์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ยังง่ายต่อการแชร์ข้อมูลให้กับลูกค้าอีกด้วย
7.การตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) วิกฤตครั้งนี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยหันไปเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านผ่านแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ซึ่งลูกค้าคาดหวังที่จะได้รับบริการที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เลือกใช้มากมาย อาทิ Shopify ที่ให้บริการแก่ผู้ประกอบการสำหรับการสร้างหน้าร้านออนไลน์อย่างครบวงจร มีทั้งเทมเพลตหลายรูปแบบสามารถปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจได้ตามต้องการ สามารถส่งข้อความถึงลูกค้าได้โดยตรง อีกทั้งยังติดตามสถานะการสั่งสินค้า และส่งใบแจ้งหนี้ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงนำไปใช้งานบนแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Amazon ได้อีกด้วย ซึ่ง Shopify เปิดให้ทดลองใช้งานได้ฟรีถึง 14 วัน
สุดท้ายนี้ ขอเเนะนำว่า การมีปฏิสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโทรศัพท์หาลูกค้า การรับสายจากลูกค้า การประชุมผ่าน zoom การส่งอีเมล์หาลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กทำงานได้เหมือนองค์กรใหญ่ แต่ความท้าทายคือการทำให้เทคโนโลยีเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ได้อย่างครบทุกมิติ ถึงเเม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการสื่อสารและผลผลิต แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ในเรื่องปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ ดังนั้นการผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคนี้
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น สามารถติดตามข้อมูล พร้อมพบกับเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ดีได้ที่ www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial และ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial
*โดย รอนดา เวอเทเร่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น