สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลความรุนแรงในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก หรือรายใหญ่ ต่างได้ผลกระทบกันถ้วนหน้า บางรายต้องต่อสู้ เพื่อประคับประคองรักษาการจ้างงาน หรือบางรายต้องยอมปิดตัวลง เพื่อตั้งหลักรอวันกลับมาใหม่อีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไม่แน่นอนจากผลกระทบภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากทุกคนมีทักษะติดตัว หรือมีอาชีพเสริม ก็ถือเป็นเกราะกำบังให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี
“ส่งคืนรายได้สู่ชุมชน นำงบส่วนโฆษณาประชาสัมพันธ์ 70%มาสร้างอาชีพช่วยชาวบ้าน” นี่เป็นจุดยืนของ “อรประภา พรมรังฤทธิ์” เจ้าของกิจการ บริษัท เซนต์บิวตี้ คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไบโอเวย์ เนเจอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร แบรนด์ “เซนต์” และ “ชีววิถี” ในการตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง” หรือ “ชุมชนกลุ่มสตรีและแกนนำ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี” ณ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
“นโยบายขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วงต้องการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ชุมชน โดยใช้ศักยภาพจากสมุนไพรไทย มาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเริ่มตั้งศูนย์เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยิ่งมุ่งมั่นสร้างประโยชน์จากศูนย์ฯ แห่งนี้ ตัดสินใจดึงงบโฆษณาลง 70% เพื่อนำมาจัดอบรมให้กับชาวบ้านในชุมชน หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจเสริมทักษะ สร้างฝึกอาชีพเข้ามาเรียนรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น การทำกาแฟ ขนมไทย ผ้ามัดย้อม ห่อลูกประคบ ทำจักรสาน สบู่-แชมพูสมุนไพร และยาหม่อง ฯลฯ จากผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากร”
เนื่องจากบริษัทฯ เป็นหนึ่งในลูกค้าของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bankนอกจากช่วยเหลือด้านแหล่งเงินทุนแล้ว ธนาคารยังมีเจตนารมณ์ตรงกันที่ต้องการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม Corporate Social Responsibility (CSR) ภายใต้โครงการ “SME D Partner by CSR” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับพัฒนา
อีกทั้ง SME D Bank ยังจัดกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านชุมชนท่าม่วง มอบชุดถังแยกขยะ ผ่านกิจกรรม “รักษ์โลกด้วยใจ คัดแยกขยะ ก่อนทิ้งลงถัง” นำไปใช้ประโยชน์จัดการทิ้งขยะได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นตัวการของปัญหามลพิษของสิ่งแวดล้อม และยังช่วยสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง จากการคัดแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อ หรือนำไปแปรรูปเป็นสินค้าอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ภายในศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง ประกอบด้วย 7 โซน แบ่งเป็น โซนที่ 1 สะพานชา เชียงดา สมุนไพรทำชา เช่น ใบเชียงดาปลูกตามแนวสะพาน ที่จัดเก็บในช่วงเช้า เพื่อนำส่วนยอดของใบไปหั่นและตากแห้ง หลังจากนั้นนำไปบดหยาบ นำไปเป็นชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อให้ระดับน้ำตาลสมดุล ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปรับระบบการทำงานของร่างกายให้สมดุล
โซนที่ 5 กาแฟในสวน ร้านกาแฟริมคลอง พร้อมชมวิวทิวทัศน์รู้สึกผ่อนคลายและดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่าง โซนที่ 6 สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วงและศูนย์เรียนรู้ของเรายังมีบริเวณบ้านพักทั้งหมด 6 หลัง เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้ามาพักผ่อนในสวนสมุนไพร และโซนที่ 7 ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาเพื่อทำเป็นศูนย์อาชีพและทางด้านสมุนไพรรวมทั้งทางด้านพืชผักสมุนไพรไทยต่าง ๆ
อรประภา เผยถึงเป้าหมายในอนาคต ต้องการต่อยอด สร้างความเข็มแข็ง ขยายโครงการฝึกอาชีพให้กว้างขวางมากขึ้น โดยจะเป็นกลุ่มหรือคณะ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและฝึกเป็นอาชีพ หรืออาจจะพัฒนาตัวเองเป็นวิทยากร เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปกระจายสู่ชุมชน หรือจังหวัดอื่น ๆ ต่อเนื่อง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง ที่อยู่ : 15/6 หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110 โทร :092-692-1850 เฟซบุ๊ก : สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง