เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ขยายเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ เชื่อมโยงผู้ส่งออกในแถบเอเชียแปซิฟิกเข้าด้วยกัน
เพิ่มเส้นทางบริการใหม่อีก 4 เส้นทางไปยังเมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เอเชียและยุโรปเสริมศักยภาพแก่ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก
เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) และผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเปิดให้บริการขนส่งทางอากาศข้ามทวีปจากเอเชียแปซิฟิกในสี่เส้นทางใหม่ ซึ่งจะทำให้มีเครือข่ายการขนส่งที่ดีขึ้น และเพิ่มความสามารถในการขนส่งถึงอาทิตย์ละเกือบ 1,400 ตัน (1,390,000 กิโลกรัม) รวมทั้งสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกเพื่อขนส่งสินค้า ทั้งข้ามแปซิฟิก ระหว่างประเทศในเอเชียและสู่ยุโรปอีกด้วย
อีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นจะยิ่งทำให้มีความต้องการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ การเปิดเส้นทางการขนส่งใหม่นี้เป็นการเสริมความแข็งแกร่งของการบริการของเฟดเอ็กซ์และทำให้เฟดเอ็กซ์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการขนส่งให้ได้จำนวนมากขึ้นและด้วยการบริการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักในภูมิภาค ในปี 2020 เพียงปีเดียว ยอดการขายสินค้าออนไลน์ในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าเกือบ 2.45 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่า 60% ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในโลก และกว่าครึ่งของนักช้อปออนไลน์ในเอเชียแปซิฟิกซื้อสินค้าจากทุกมุมโลก1
เฟดเอ็กซ์ทำการเพิ่มเที่ยวบินขนส่งดังนี้
- เพิ่มสองเที่ยวบินขนส่งสินค้าเส้นทางทรานส์แปซิฟิก เที่ยวบินหนึ่งออกจากศูนย์ของเฟดเอ็กซ์ในเอเชียแปซิฟิกที่กวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านแองเคอเรจ สหรัฐอเมริกา ไปยังโอ๊คแลนด์ สหรัฐอเมริกา ส่วนอีกเที่ยวหนึ่งผ่านจากแองเคอเรจ ไปยังอินเดียนาโปลิสและเมมฟิส สหรัฐอเมริกา ส่วนขากลับผ่านแองเคอเรจและอินชอน เกาหลีใต้ ไปยังกวางโจว โดยเดินทาง 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อและส่งสินค้าได้มากขึ้นระหว่างตอนใต้ของจีน เอเชียตอนเหนือ และอเมริกาเหนือ
- เส้นทางขนส่งทรานส์แปซิฟิกเส้นที่สาม เชื่อมต่อปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน กับศูนย์ใหญ่ของเฟดเอ็กซ์ในเมมฟิส สหรัฐอเมริกา เที่ยวบินนี้เดินทางระหว่างปักกิ่งผ่านศูนย์เฟดเอ็กซ์ประจำภูมิภาคแปซิฟิกเหนือที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และแองเคอเรจ ก่อนที่จะเดินทางถึงเมมฟิส ทำให้มีการเชื่อมต่อระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนทุกสัปดาห์
- นอกจากนี้ ลูกค้าของเฟดเอ็กซ์ทั่วภูมิภาคจะได้รับประโยชน์จากเที่ยวบินขนส่งและปริมาณขนส่งสู่ยุโรปที่มากขึ้น โดยมาจากเที่ยวบินขนส่งโบอิ้ง 777 ที่เดินทางจากศูนย์ของเฟดเอ็กซ์ประจำเอเชียแปซิฟิกในกวางโจว ประเทศจีน จำนวนสองเที่ยว และการขนส่งจากศูนย์ของเฟดเอ็กซ์ในแปซิฟิกเหนือที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ไปยังศูนย์เฟดเอ็กซ์ที่ชาร์ลสเดอโกลด์ (CDG) ที่ปารีส ฝรั่งเศส
เอเชียแปซิฟิกกลายเป็นมาร์เก็ตเพลสขนาดใหญ่และคาดกันว่าจะมีสินค้าส่งออกในปี 2021 มากกว่าปีก่อนถึง 13% 1 ด้วยการส่งออกจากประเทศจีนที่เพิ่มมากขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน2 และการส่งออกจากญี่ปุ่น3 และเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนการระบาด4 และจากความต้องการสินค้าจากคู่ค้าในสหรัฐอเมริกาและจีน เราเริ่มเห็นการฟื้นของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้5 ตัวอย่างเช่น การส่งออกของประเทศไทยในเดือนมิถุนายนปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 43.8% ซึ่งสูงสุดในช่วง 11 ปี6 ส่วนสิงคโปร์ก็มีการส่งออกในเดือนมิถุนายนปีนี้สูงกว่าปีก่อนถึง 28% 7
นางสาวคาวอล พรีท ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรซ กล่าวว่า “เฟดเอ็กซ์มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า ดังนั้นเครือข่ายการขนส่งนี้ชี้ให้เห็นความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนให้ลูกค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ เราเล็งเห็นแนวโน้มด้านการส่งออกจากเอเชียแปซิฟิกในระดับเดียวกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด เที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นมานี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรับมือกับการค้าข้ามพรมแดนได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในเส้นทางการค้าภายในเอเชีย ทรานส์แปซิฟิกและระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ในช่วงที่เศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกฟื้นตัว”
ออเดรย์ เจิ้ง รองประธานประจำภูมิภาค ฝ่ายปฎิบัติการ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “การเปิดเส้นทางใหม่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นศักยภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเป็นแรงขับเคลื่อนการส่งออกจากเอเชียสู่ยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเฟดเอ็กซ์มีความพร้อมและโซลูชั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า เส้นทางการขนส่งใหม่นี้ ทำให้เราช่วยสนับสนุนการเติบโตของการค้าข้ามพรมแดน รวมทั้งสนับสนุนธุรกิจลูกค้า SME ของเรา”
ปัจจุบัน เฟดเอ็กซ์ให้บริการขนส่งจำนวนประมาณ 200 เที่ยวต่อสัปดาห์ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทรานส์แปซิฟิก และยุโรป รวมทั้งเชื่อมต่อลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกกับเครือข่ายที่กว้างขวางของเฟดเอ็กซ์ทั่วโลก