BAM โชว์ผลงาน 9 เดือนสุดปัง กำไรพุ่ง 57% สู่ 1,695 ล้านบาท เดินเกม Partnership ดันผลเรียกเก็บทะลุเป้า 17,800 ล้าน สู่เป้าหมาย “BAM X”

144

ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและความผันผวนจากสถานการณ์หนี้เสีย (NPL) ที่ยังเป็นโจทย์ใหญ่ของระบบการเงิน “บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)” หรือ BAM สามารถโต้คลื่นเศรษฐกิจและสร้างผลประกอบการที่โดดเด่นในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2568 ด้วยผลเรียกเก็บรวมกว่า 13,803 ล้านบาท เติบโตถึง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 57% จากกำไร 1,079 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และแซงหน้ากำไรทั้งปี 2567 ที่อยู่ที่ 1,602 ล้านบาทได้สำเร็จ

ผลประกอบการแกร่ง กลยุทธ์ Partnership คือหัวใจ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM  กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนปีนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยนอกจากการฟื้นตัวของรายได้จากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) แล้ว ยังมาจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกด้านพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership Strategy) ทั้งฝั่ง NPL และ NPA ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์และขยายฐานรายได้

“เรามุ่งเน้นการบริหาร NPL ด้วยแนวทางที่ให้โอกาสลูกหนี้ได้กลับมามีหลักประกันในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือที่ทำกิน ภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน ผ่านกระบวนการ Recycling Machine และการตั้งโรงงานแก้หนี้ (TDR Factory) เพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ให้กลับมามีสุขภาพทางการเงินที่ดี ขณะเดียวกันก็เดินหน้าความร่วมมือกับสถาบันการเงินผ่านโครงการ NPL Partnership และโมเดลใหม่ ๆ เช่น JV Window และการรับจ้างบริหาร เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์กล่าว

จับมือพันธมิตรอสังหาฯ พลิก “ทรัพย์ร้าง” เป็น “ทรัพย์สร้างมูลค่า”

ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) BAM เดินเกมต่อยอดด้วยกลยุทธ์ NPA Partnership ที่เปิดความร่วมมือกับพันธมิตรอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย อาทิ วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อรสิริน กรุ๊ป จำกัด

รวมถึงพันธมิตรทางการเงิน เช่น ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย BAM มุ่งเน้นการคัดเลือกทรัพย์ NPA ขนาดใหญ่ (Big Lots) เพื่อให้พันธมิตรนำไปพัฒนา เพิ่มมูลค่า และพลิกฟื้นพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้หมุนเวียนคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมลดระยะเวลาการถือครองและเพิ่มอัตราผลตอบแทนในระยะยาว

“ทรัพย์มหาชน” ปลุกตลาดบ้านราคาจับต้องได้

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ได้รับเสียงตอบรับดีคือโครงการ “ทรัพย์มหาชน” ที่ BAM เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระโดยตรงกับ BAM หรือผ่านสถาบันการเงินพันธมิตรที่ให้สินเชื่อในเงื่อนไขพิเศษ

หลังเปิดตัวเพียงไม่ถึงเดือน โครงการสามารถสร้างยอดขายได้แล้วกว่า 302 ล้านบาท และคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยให้ BAM ขยายฐานลูกค้า ขับเคลื่อนรายได้ และเพิ่มโอกาสการเติบโตในระยะยาว

ดันองค์กรสู่ “BAM X” ด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก

เพื่อรองรับการเติบโตในยุคใหม่ BAM ได้วางแนวทางพัฒนาองค์กรใน 3 มิติสำคัญ ได้แก่

  1. พัฒนา Business Model ใหม่ เพื่อตอบโจทย์โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  2. ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัว
  3. พัฒนาทรัพยากรบุคคล ผ่านแผนแม่บท HR Master Plan และการปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะกับยุคดิจิทัล

“เรากำลังสร้างรากฐานใหม่ขององค์กร ภายใต้แนวคิด BAM X ซึ่งหมายถึงการขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืน ความยืดหยุ่น และนวัตกรรม เพื่อให้ BAM ไม่เพียงยืนหยัดในตลาดบริหารสินทรัพย์ แต่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค” ดร.รักษ์กล่าวย้ำ

BAM Choice แอปเดียวจบทุกเรื่องการเงิน

นอกจากการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ BAM ยังเปิดตัวแอปพลิเคชัน “BAM Choice” แพลตฟอร์มบริหารจัดการทางการเงินแบบครบวงจร ที่ให้บริการตั้งแต่การปรับโครงสร้างหนี้ การติดตามสถานะ ไปจนถึงการค้นหาทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน หรือคอนโด—all in one app—ช่วยให้ลูกค้าบริหารชีวิตทางการเงินได้ง่ายขึ้น สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส

ปักหมุดเป้าหมายผลเรียกเก็บปี 68 ทะลุ 17,800 ล้านบาท

ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 BAM มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ในความดูแลกว่า 90,150 ราย คิดเป็นภาระหนี้รวม 491,912 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จำนวน 28,287 รายการ มูลค่าราคาประเมินรวมกว่า 78,569 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลเรียกเก็บได้ตามเป้าหมายทั้งปี 17,800 ล้านบาท ด้วยพลังของ Partnership Strategy และโมเดลธุรกิจใหม่ที่กำลังต่อยอดสู่ความยั่งยืน

“เราจะไม่หยุดเพียงการบริหารหนี้ แต่จะสร้างคุณค่าใหม่ให้ทุกสินทรัพย์ สร้างโอกาสให้ลูกหนี้กลับมามีชีวิตที่ดี และขับเคลื่อน BAM ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว” ดร.รักษ์ กล่าว