“เอสซีจี โลจิสติกส์” พัฒนาคุณภาพเด็กไทย เปิด “Smile Kid School Bus”

ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนติดในรถโรงเรียน และนำไปสู่ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บทางด้านร่างกายและสภาพจิตใจ หรือถึงขั้นเสียชีวิต ได้สร้างความเศร้าโศกให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองและครอบครัวของนักเรียน เอสซีจี โลจิสติกส์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการขนส่งสินค้า จึงได้นำนวัตกรรมมาพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีโลจิสติกส์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมด้านความปลอดภัยในวงกว้างอย่างยั่งยืน ภายใต้ โครงการ “Smile Kid School Bus รถโรงเรียนอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย”

การดำเนินโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชน และสร้างสังคมความปลอดภัยให้ขยายผลไปทั่วประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ เอสซีจี โลจิสติกส์ ลงนามความร่วมมือใน โครงการ “Smile Kid School Bus รถโรงเรียนอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย” ด้วยการใช้ระบบ AI ผสานความเชี่ยวชาญของบุคลากรจากเอสซีจี โลจิสติกส์ เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาเด็กติดในรถโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน และส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืนใน 77 จังหวัด

นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียน จึงได้ร่วมกับเอสซีจี โลจิสติกส์ ดำเนินโครงการ “Smile Kid School Bus รถโรงเรียนอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย” ซึ่งเป็นแนวทางความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ในการป้องกันอุบัติเหตุ และช่วยเหลือ เด็กนักเรียนที่ติดอยู่ในรถ รวมถึงการจัดทำฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล สำหรับนำไปพัฒนาต่อยอดในการสร้างประโยชน์แก่เด็กนักเรียนต่อไปในอนาคต โดยศึกษาธิการจังหวัด
ทั่วประเทศได้สนับสนุนโครงการฯ นี้ และจะเริ่มนำระบบดังกล่าวไปใช้กับโรงเรียนนำร่อง ทั้งโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนท้องถิ่น และโรงเรียนเอกชน”

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “ด้วยพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยที่มีเป้าหมายในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติ จึงได้พิจารณาร่วมศึกษาและให้ความร่วมมือในการจัดทำโครงการ “Smile Kid School Bus รถโรงเรียนอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย” เพื่อลดปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ และตระหนักถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนอันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาเด็กติดในรถโรงเรียนจนได้รับบาดเจ็บกระทั่งเสียชีวิต โดยได้รับความร่วมมือในการดำเนินโครงการเป็นอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ”

นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด

ขณะที่ นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “เอสซีจี โลจิสติกส์ ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการขนส่งสินค้า ตระหนักถึงการใช้ความเชี่ยวชาญในการใช้นวัตกรรมเพื่อต่อยอดเทคโนโลยีโลจิสติกส์ให้เกิดประโยชน์ในการดูแลสังคมด้านการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เด็กติดอยู่ในรถโรงเรียนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต สร้างความสูญเสียด้านทรัพยากรบุคคลของประเทศหลายเหตุการณ์ เอสซีจี โลจิสติกส์ จึงได้พัฒนาโครงการ “Smile Kid School Bus รถโรงเรียนอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย” ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ของศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัย Logistics Command Center (LCC) ที่มีมาตรฐาน ควบคู่กับการใช้ความสามารถของบุคลากรของเอสซีจีที่ผ่านการฝึกอบรม และมากประสบการณ์ ที่จะช่วยติดตามสถานะการเดินทางของบุตรหลานบนรถโรงเรียนแบบ Real-Time ด้วยการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Smile Kid School Bus และกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

การทำงานของระบบ Smile Kid School Bus

ระบบ Smile Kid School Bus พัฒนาต่อยอดมาจากระบบควบคุมความปลอดภัยของศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัย Logistics Command Center (LCC) โดยระบบจะช่วยยับยั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ด้วยระบบ GPS Tracking สำหรับติดตามสถานะรถแบบ Real-Time รวมทั้งติดตามดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดผ่านแอปพลิเคชันและกล้อง CCTV โดยควบคุมผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และบุคลากรของเอสซีจี โลจิสติกส์ ด้วยเชื่อว่าหลักการทำงานควบคู่กันระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์คือสิ่งที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถตรวจสอบร่วมกัน อันจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยระบบสามารถให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศและยังมีศักยภาพที่จะขยายไปต่างประเทศได้

ปัจจุบัน มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดมากกว่า 40 จังหวัด โดยเริ่มนำร่องที่ศูนย์เด็กเล็ก อบต.ห้วยม่วง จังหวัดขอนแก่น เป็นแห่งแรก โดยเอสซีจี โลจิสติกส์ ได้เข้าช่วยเหลือด้วยการดำเนินการติดตั้งระบบ และอบรมให้ความรู้ในเรื่องการใช้งานระบบและความปลอดภัย ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จนนำไปสู่แผนงานขยายโครงการร่วมกับ ดร.สมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ภายใต้แนวคิด Smart City และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าขยายผลให้ครบ 77 จังหวัด เพื่อผลักดันให้เกิดสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ เอสซีจี โลจิสติกส์ โดยโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ (SCG SKILLS DEVELOPMENT) ยังมีการจัดอบรมหลักสูตรให้ความรู้กับเด็กเล็ก (อายุ 3 ขวบขึ้นไป) เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากรณีติดในรถ และยังมีหลักสูตรอบรมพนักงานขับรถโรงเรียน เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน