กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แนะ 3 เทคนิคควรรู้ก่อนยื่นภาษี

ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี เป็นโอกาสดีที่จะทบทวนเรื่องภาษีของตัวเอง ก่อนจะเริ่มยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2567 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มี 3 เทคนิคดี ๆ เพื่อช่วยวางแผนภาษี ให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้อย่างคุ้มค่ามาแนะนำ

เทคนิคที่ 1 : วางแผนยื่น – รวบรวมเอกสาร – ลองคำนวณก่อนยื่นภาษี

  • คนไทยทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี แบ่งง่าย ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนโสดที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี และกลุ่มคนแต่งงานแล้วที่มีรายได้เกิน 220,000 บาทต่อปี
  • ก่อนยื่นภาษี แนะนำให้ลองคำนวณรายได้ที่ต้องยื่นภาษีกับโปรแกรมคำนวณภาษีที่มีหลายเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ฟรี
  • ภาษีเงินได้จะจ่ายเป็นแบบขั้นบันไดและมีอัตราสูงสุดที่ 35% เช่น หากรายได้ 500,000 บาทต่อปี จะเสียภาษีรวม 27,500 บาท แบ่งเป็น 3 ช่วงรายได้ คือ 150,000 บาทแรก ไม่เสียภาษี, รายได้ 150,000 บาทถัดมา เสียภาษีในอัตรา 5% และรายได้ 200,000 บาทสุดท้ายเสียภาษีในอัตรา 10% เป็นต้น
Man and stack of coins money on natural green background, SSF (Super Saving Funds) and RMF (Retirement Mutual Fund) concept

เทคนิคที่ 2 : หารายการลดหย่อนภาษีให้มากที่สุด

  • รายการลดหย่อนติดตัวที่ทุกคนมี ได้แก่ หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 100,000 บาท, ลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และรายได้ส่วนแรกไม่เสียภาษีอีก 150,000 บาท
  • รายการลดหย่อนใกล้ตัวถ้ามีควรใส่ให้ครบ ได้แก่ ประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินบริจาค, ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา, เลี้ยงดูบุตร, ค่าฝากครรภ์ และค่าคลอดบุตร เป็นต้น (สิทธิ์ลดหย่อนภาษีแต่ละรายการมีเพดานไม่เกินที่กำหนด)
  • รายการลดหย่อนเพิ่มเติมช่วยลดภาษีได้เยอะ ได้แก่ ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน, ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, ประกันบำนาญ, กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว SSF, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน TESG น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ เป็นต้น แนะนำให้ทยอยซื้อสะสมไม่ต้องจ่ายเงินออกไปครั้งเดียวจำนวนมากจนกระทบสภาพคล่อง ควรศึกษาทำความเข้าใจรูปแบบและเงื่อนไขให้ดีก่อนตัดสินใจจ่ายเงินซื้อหาสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเหล่านี้เพิ่มเติมเข้ามา นอกจากนั้น ต้องคำนวณเงินในการซื้อค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ให้ดีก่อนซื้อ เพราะหากซื้อมากเกินไปก็อาจจะเกินสิทธิ์สูงสุดที่จะลดหย่อนได้ (สิทธิ์ลดหย่อนภาษีแต่ละรายการมีเพดานไม่เกินที่กำหนด และสิทธิ์ลดหย่อนภาษีรวมจาก ประกันบำนาญ + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + กองทุนรวม SSF + กองทุนรวม RMF ต้องไม่เกิน 500,000 บาทอีกด้วย)
Concept of Online insurance. woman holding and giving insurance and assurance icon including family health real estate car and financial for risk management concept. Online insurance.

เทคนิคที่ 3 : ยื่นภาษีได้สะดวกและประหยัดกว่าผ่านช่องทางออนไลน์

  • ปัจจุบันสามารถยื่นภาษีได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ rd.go.th ของกรมสรรพากร เพราะสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งระบบออนไลน์ยังช่วยเชื่อมโยงข้อมูลลดหย่อนบางรายการ (เช่น ดอกเบี้ยกู้บ้าน เงินบริจาค ประกันชีวิต เป็นต้น) ให้เปิดเผยแก่กรมสรรพากรได้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาคำนวณหรือเสียเวลากรอก และช่องทางนี้ยังขยายเวลายื่นได้นานถึง 8 เมษายน 2567 สำหรับปีภาษี 2566 แต่ถ้าใครสะดวกไปยื่นภาษีที่สรรพากรเขตก็ทำได้โดยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยให้คำแนะนำต่าง ๆ ให้ด้วย แต่หากยื่นผ่านช่องทางนี้ต้องทำภายใน 31 มีนาคม 2567 เท่านั้น
  • กรณีต้องจ่ายภาษีเพิ่ม สามารถทำผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้ทั้งแบบโอนผ่านบัญชีธนาคาร หรือสแกน QR Code และหากใครที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเป็นเงินก้อนใหญ่ก็อาจเลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็ทำได้ แต่ข้อเสียคือจะไม่ได้คะแนนสะสม และอาจต้องเสียค่าธรรมเนียม 1% สำหรับบางธนาคาร หรืออาจมีบางธนาคารที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมจึงควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมให้ดีก่อน
  • กรณีขอคืนภาษี สามารถเลือกรับเงินคืนในรูปแบบเช็ค หรือผ่าน ‘Prompt Pay’ ที่ผูกบัญชีธนาคารกับเบอร์โทรศัพท์มือถือหรือหมายเลขบัตรประชาชน หากได้รับอนุมัติ ระบบจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีอัตโนมัติ
  • เมื่อยื่นภาษีแล้ว แนะนำให้จัดเก็บเอกสารที่ยื่นแล้วในซองเอกสารโดยแยกเป็นของแต่ละคนและแยกแต่ละปีโดยไม่ปะปนกัน เพราะสรรพากรสามารถขอดูเอกสารย้อนหลังได้นานถึง 5 ปี หรือหากใครจะเลือกจัดเก็บเป็นไฟล์ดิจิทัลก็ทำได้ง่ายเพียงสแกนเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์

แค่รู้จักวางแผนให้ดี การยื่นเสียภาษีก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย