ออริจิ้น โชว์แบ็คล็อกบ้าน-คอนโดแกร่ง 47,135 ล้าน กวาดรายได้ครึ่งปีแรกกว่า 6,600 ล้าน ไตรมาส 3/2567 จ่อโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มจาก 5 โครงการ มีแบ็คล็อกที่จะทยอยโอนกว่า 9,600 ล้าน
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โชว์แบ็คล็อกแกร่งกว่า 47,135 ล้าน หลังครึ่งปีแรก กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดเพิ่มกว่า 18,331 ล้าน และรับรู้รายได้รวมแล้วกว่า 6,651 ล้าน ไตรมาส 3/2567 จ่อโอนกรรมสิทธิ์คอนโดใหม่เพิ่ม โซนรถไฟฟ้าสายสีเขียว 3 ทำเล โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์, ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4, ออริจิ้น เพลย์ พหล 50 สเตชั่น มีแบ็คล็อกรวมประมาณ 90% ของมูลค่าโครงการ หรือกว่า 4,200 ล้าน รวมแบ็คล็อกที่จะทยอยโอนก่อนหน้ารวมเป็น 9,600 ล้าน
ครึ่งปีหลังชูกลยุทธ์เน้นเปิดโครงการใหม่ในทำเลที่มีความต้องการสูง พร้อมกระจายพอร์ตลุยลูกค้าอยู่เอง-นักลงทุนระยะยาว-Corporate-ตลาดต่างชาติ ด้านคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เปิดใหม่ “ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” กวาดยอดขายสะสมทะลุ 60% หลังเปิดตัวเพียง 3 เดือน คอนโดในภูเก็ตฮอต กวาดยอดขาย 7 เดือน สะสมแล้วกว่า 80% เตรียมเปิดโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต ตอกย้ำโซนฮอตไตรมาส 4/2567 นี้ ด้านบ้านจัดสรรนำร่องโดย โครงการ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 สะสมยอดขายกว่า 60%
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 (30 มิ.ย.2567) บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็คล็อก) จากทั้งโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม 47,135 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 มียอดขายจากโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกว่า 18,331 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดแบ็คล็อกดังกล่าว จะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ไปจนถึงปี 2571 เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 นี้ จะมีโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จใหม่โซน BTS สายสีเขียว ที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (So Origin Kaset Interchange) โครงการใกล้ BTS สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama 4) โครงการใกล้ BTS พระโขนง และ 3.ออริจิ้น เพลย์ พหล 50 สเตชั่น (Origin Play Phahol 50 Station) โครงการใกล้ BTS สถานีพหลโยธิน 50 โดยเป็นโครงการที่มีมูลค่าแบ็คล็อกพร้อมโอนจากทั้ง 3 โครงการรวมประมาณ 4,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 90% ของมูลค่าโครงการ ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะทยอยโอนต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 อีก 2 โครงการ ได้แก่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) และออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น (Origin Play Sri Udom Station) มีมูลค่าแบ็คล็อกพร้อมโอนต่อเนื่องอีกราว 2,400 ล้านบาท
“เศรษฐกิจปีนี้ไม่ง่าย แต่ด้วยแบ็คล็อกที่เราวางแผนเปิดโครงการ และสะสมยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังคงมีรายได้ที่รอรับรู้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเราเองยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจัยภายนอก” นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีกประมาณ 11,000 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปแล้วราว 8,980 ล้านบาท สำหรับทำเลของโครงการที่จะพัฒนานั้น จะมีความยืดหยุ่นในการเลือกพัฒนามากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการจริงของตลาดแต่ละทำเล มีการทดสอบการตอบรับของลูกค้าก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ เน้นเปิดตัวเฉพาะโครงการที่มีจุดเด่นชัดเจน มีการตอบรับที่แข็งแกร่ง และอาจปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม โดยบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ ยังยึดแนวทางการร่วมทุนเป็นหลัก เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มคู่คิดที่มีความชำนาญในทำเล
ขณะที่กลุ่มโครงการพร้อมอยู่ บริษัทเตรียมเดินหน้าจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่ประสบปัญหาด้านการขอสินเชื่อ อาทิ การรวมหนี้ผ่านธนาคารที่มีนโยบายรองรับ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการยื่นกู้ร่วม เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน การเสนอโครงการอื่นในทำเลใกล้เคียงที่ลูกค้ามีความสามารถชำระเพื่อเป็นทางเลือก พร้อมทั้งเดินหน้าโมเดลการขายโครงการไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ลูกค้าลงทุนระยะยาว ลูกค้าต่างชาติ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) ที่มีความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมสำหรับพนักงาน
ล่าสุด บริษัทยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในกลุ่มโครงการเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านเตาปูน มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ที่กวาดยอดขายสะสมไปแล้วถึง 60% หลังเปิดขายได้เพียง 3 เดือน เช่นเดียวกับโครงการในโซนภูเก็ต ที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี บริษัทสามารถกวาดยอดขายสะสมมาแล้วถึง 2,000 ล้านบาท หรือกว่า 80% โดยจะเปิดโครงการใหม่ โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) โครงการคอนโดมิเนียมกลางภูเก็ต ใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร มูลค่าโครงการกว่า 1,650 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้