จีดีพีไทยปี 2568 ขยับขึ้น 1.8% กสิกรไทยชี้ส่งออกเร่งตัว แต่แรงกดดันภาษีสหรัฐฯ ยังท้าทาย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 เป็น 1.8% จากเดิม 1.5% โดยได้แรงหนุนหลักจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เร่งตัวก่อนมาตรการภาษี Section 232 และภาษีสินค้าผ่านประเทศที่สาม (Transshipment) มีผลบังคับใช้ ทำให้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยชะลอตัวน้อยกว่าคาด และลดความเสี่ยงเข้าสู่ ภาวะถดถอยทางเทคนิค
ดอกเบี้ยและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
“กนง.มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในปี 2568 เพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และต้องควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าของรัฐบาลใหม่”
นายบุรินทร์ยังวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลงเกือบ 10% ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงใน ก.ย. 2568 หลังการแทรกแซงนโยบายโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ การจ้างงานสหรัฐฯ เริ่มชะลอ ความเชื่อมั่นสกุลเงินดอลลาร์อ่อน ส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนของไทย
การส่งออกและจีดีพีไทย
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
“แรงหนุนจากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังประคองตัวได้ แม้ปัจจัยท้าทายทั้งภาษี การท่องเที่ยวชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการเมืองยังอยู่”
การส่งออกครึ่งปีหลัง 2568 ชะลอตัวน้อยกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลให้จีดีพีไทยขยับขึ้นเป็น 1.8% ลดความเสี่ยงทางเทคนิค แต่ยังต้องจับตาภาคการท่องเที่ยวและการลงทุน
ภาษีสหรัฐฯ: ความเสี่ยงต่อสินค้าไทย
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
“กลุ่มสินค้าไทยที่ใช้วัตถุดิบในประเทศต่ำกว่า 50% เสี่ยงถูกเก็บภาษี Transshipment ได้แก่ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ และเคมีภัณฑ์ ซึ่งคิดเป็น 27% ของมูลค่าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ”
อัตราภาษีถ่วงน้ำหนักของไทยคาดอยู่ที่ 26% ต่ำกว่ามาเลเซีย แต่สูงกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย ขณะที่ไทยมีสัดส่วนสินค้าที่ถูกเก็บภาษีสูงกว่า 19% เกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ
Semiconductor: จุดเปลี่ยนสำคัญของการส่งออกไทย
ดร.รุจิพันธ์ อัสสะรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า การเก็บภาษีนำเข้า Semiconductor ของสหรัฐฯ ภายใต้ Section 232 จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่ถูกเก็บภาษีจาก 12.3% → 19.5% ของมูลค่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ในไตรมาส 4 ปี 2568
Semiconductor เป็นสินค้าส่งออกที่มีอัตราภาษีสูงถึง 100–300% แม้ว่าผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์บางส่วน เช่น ฮาร์ดดิสก์และคอมพิวเตอร์ จะยังไม่ถูกเก็บภาษีรอบแรก แต่คาดว่าในปี 2569 การส่งออก Semiconductor จะพลิกจากเติบโตเลขสองหลัก เป็น หดตัวราว 4.8% เพราะตลาดสหรัฐฯ ครองสัดส่วนสูงถึง 16.2% ของการส่งออกกลุ่มนี้
แนวโน้มปี 2569 และปัจจัยต้องจับตา
– จีดีพีไทย: ขยับขึ้นจากการส่งออกระยะสั้น แต่ยังเปราะบางต่อมาตรการภาษี
– ดอกเบี้ย: กนง.อาจลดอีก 1 ครั้งเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
– การส่งออก: Semiconductor และสินค้ากลุ่มที่พึ่งพาวัตถุดิบต่างประเทศมีความเสี่ยงสูง
– เศรษฐกิจโลก: ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และนโยบายเฟดยังเป็นตัวแปรสำคัญ
– นโยบายรัฐบาลใหม่: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าจะเป็นตัวชี้วัดว่าภาคธุรกิจและแรงงานไทยจะรับมือแรงกดดันได้หรือไม่
ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทย “เดินหน้าแบบระวังตัว” แรงหนุนจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ช่วยพยุงจีดีพี แต่แรงกดดันจากมาตรการภาษีและความผันผวนเศรษฐกิจโลกเป็นโจทย์ใหญ่ของปี 2569 ขณะที่ดอกเบี้ยและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย